Kenroku-en สวนสวยอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น (ร่วมกับ Kairaku-en ที่ Ibaraki และ Koraku-en ที่ Okayama) มีขนาดถึง 11.4 เฮกตาร์ หรือราวๆ 71.25 ไร่ ตั้งอยู่บนเนินสูงทางตอนกลางของเมือง Kanazawa ใกล้กับปราสาท Kanazawa 
แรกเริ่มเดิมทีสวนนี้เป็นสวนที่อยู่ในการดูแลของขุนนาง ตระกูล Maeda และ Kaga ในยุคสมัยของเอโดะ ต่อมาได้ถูกพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะ โดยเปิดให้คนทั่วไปเข้าไปเยี่ยมชมได้ในปี 1871
คำว่า Kenroku นั้น หมายถึงคุณสมบัติ 
ประการ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของที่ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่งดงามและสมบูรณ์แบบ ได้แก่
ประการ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของที่ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่งดงามและสมบูรณ์แบบ ได้แก่- มีพื้นที่กว้างขวาง
- บรรยากาศเงียบสงบ
- ลงตัว
- ประวัติความเป็นมาอันยาวนาน
- แหล่งน้ำ
- ทัศนีย์ภาพอันสวยงาม
สวนแห่งนี้มีทางเข้ามากถึง 
ด้าน โดยประตู Katsurazaka ถือเป็นประตูที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ประตูด้านที่เชื่อมเข้ากับ Ishikawa-mon ของปราสาท Kanazawa) เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับสระน้ำขนาดใหญ่ Kasumiga-Ike โคมไฟหิน Kotoji และสะพานหิน Niji ซึ่งถือเป็นจุดไฮไลท์ของสวนแห่งนี้เลย
ด้าน โดยประตู Katsurazaka ถือเป็นประตูที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ประตูด้านที่เชื่อมเข้ากับ Ishikawa-mon ของปราสาท Kanazawa) เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับสระน้ำขนาดใหญ่ Kasumiga-Ike โคมไฟหิน Kotoji และสะพานหิน Niji ซึ่งถือเป็นจุดไฮไลท์ของสวนแห่งนี้เลย
ภายในสวนมีต้นไม้อยู่หลากหลายสายพันธุ์ 
แต่ที่โดดเด่นและเป็นไฮไลท์ของสวนก็คือ ต้นสนดำเก่าแก่ Karasaki 
ที่ปลูกโดย Maeda Nariyasu ซึ่งเป็นไดเมียวรุ่นที่ 13 ของตระกูล Maeda โดยในช่วงก่อนเข้าฤดูหนาว จะสังเกตเห็นการนำเชือกมาขึงเป็นแนวสามเหลี่ยมเพื่อป้องกันการทับถมของหิมะ ซึ่งอาจทำให้ต้นไม้ล้มโค่นลงมาได้
แต่ที่โดดเด่นและเป็นไฮไลท์ของสวนก็คือ ต้นสนดำเก่าแก่ Karasaki ที่ปลูกโดย Maeda Nariyasu ซึ่งเป็นไดเมียวรุ่นที่ 13 ของตระกูล Maeda โดยในช่วงก่อนเข้าฤดูหนาว จะสังเกตเห็นการนำเชือกมาขึงเป็นแนวสามเหลี่ยมเพื่อป้องกันการทับถมของหิมะ ซึ่งอาจทำให้ต้นไม้ล้มโค่นลงมาได้
มีการนำเชือกมาผูกเป็นทรงสามเหลี่ยมเพื่อป้องกันหิมะทับถมบนต้นไม้
ทัศนียภาพของฤดูหนาว 
ที่มีหิมะท่วมคือจุดที่ทำให้สวน Kenroku-en นั้นยืนหนึ่งเหนือ Kairoku-en และ Koraku-en สองสวนที่ขึ้นแท่นรางวัลมาด้วยกัน เพราะที่ Kanazawa นั้นมีหิมะตกทุกปี แต่ที่ Ibaraki และ Okayama นั้นแทบจะหาโอกาสที่มีหิมะตกได้ยากมากๆ
ที่มีหิมะท่วมคือจุดที่ทำให้สวน Kenroku-en นั้นยืนหนึ่งเหนือ Kairoku-en และ Koraku-en สองสวนที่ขึ้นแท่นรางวัลมาด้วยกัน เพราะที่ Kanazawa นั้นมีหิมะตกทุกปี แต่ที่ Ibaraki และ Okayama นั้นแทบจะหาโอกาสที่มีหิมะตกได้ยากมากๆ ในความเชื่อของแอด สวนสวยๆดังๆที่มีดอกซากุระ 
หรือใบไม้เปลี่ยนสี 
ในญี่ปุ่นนั้นหาถ่ายได้ไม่ยาก แต่สวนสวยที่มีหิมะตกท่วมๆนั้นหาได้ยากกว่ามาก ซึ่งสวน Kenroku-en ในช่วงฤดูหนาวถือเป็นหนึ่งในจุดหมายที่อยากมาเก็บให้ได้ จนสำเร็จในช่วงฤดูหนาวของปี 2017 ที่ผ่านมา
หรือใบไม้เปลี่ยนสี ในญี่ปุ่นนั้นหาถ่ายได้ไม่ยาก แต่สวนสวยที่มีหิมะตกท่วมๆนั้นหาได้ยากกว่ามาก ซึ่งสวน Kenroku-en ในช่วงฤดูหนาวถือเป็นหนึ่งในจุดหมายที่อยากมาเก็บให้ได้ จนสำเร็จในช่วงฤดูหนาวของปี 2017 ที่ผ่านมา
เกร็ดความรู้ 
: สวน Kenroku-en เปิดตอน 8.00 น. ในช่วงฤดูหนาว ถ้าหิมะหยุดตกตั้งแต่เช้ามืด กว่าสวนจะเปิด หิมะที่เกาะอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้ก็อาจจะละลาย ร่วงหล่นไปแล้ว ซึ่งในทริปปี 2017 แอดโชคดีมากที่ช่วงเช้าหิมะยังตกหนักอยู่ มาเริ่มฟ้าเปิดสีครามเอาตอนที่สวนเปิดพอดิบพอดี เลยทำให้ได้ภาพเซตนี้มาครับ 
: สวน Kenroku-en เปิดตอน 8.00 น. ในช่วงฤดูหนาว ถ้าหิมะหยุดตกตั้งแต่เช้ามืด กว่าสวนจะเปิด หิมะที่เกาะอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้ก็อาจจะละลาย ร่วงหล่นไปแล้ว ซึ่งในทริปปี 2017 แอดโชคดีมากที่ช่วงเช้าหิมะยังตกหนักอยู่ มาเริ่มฟ้าเปิดสีครามเอาตอนที่สวนเปิดพอดิบพอดี เลยทำให้ได้ภาพเซตนี้มาครับ 
การเดินทาง
เดินทางด้วยรถบัสโดยสารรถบัส 
จากสถานี Kanazawa
จากสถานี Kanazawa· Kanazawa Loop Bus Right Loop ลงที่ป้าย RL8, หรือ Left Loop ลงที่ป้าย LL9
· Kenrokuen Shuttle Bus (เฉพาะเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนขตฤกษ์) ลงที่ป้าย S8
หรือ โดยสาร Taxi 
จากสถานี Kanazawa ค่าโดยสารประมาณ 1000-1500 เยน
จากสถานี Kanazawa ค่าโดยสารประมาณ 1000-1500 เยน