Rausu & Shiretoko Peninsula
เมือง Rausu เมืองใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งทางตะวันออกของเกาะฮอกไกโด บนคาบสมุทร Shiretoko ที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล Okhotsk ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก
Shiretoko National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและป่าที่อุดสมบูรณ์ เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่ามากมาย โดยเฉพาะหมีสีดำ ที่เป็นเหมือนเจ้าถิ่นของที่นี่ ^^”
จุดท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดที่นี่ก็คงจะหนีไม่พ้น Shiretoko Five Lakes และเส้นทางชมธรรมชาติ Shiretoko Passage บนทางหลวงหมายเลข 334 ที่เชื่อมระหว่างเมือง Utoro และ Rausu นั้นสวยสุดยอดเกินจะบรรยาย
เราสามารถมาเที่ยวชมความงามของธรรมชาติของที่นี่ได้แทบทุกฤดู (ยกเว้นฤดูหนาวที่เส้นทางส่วนใหญ่ปิดเพราะหิมะหนาแน่น)

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า ในช่วงฤดูหนาวของที่นี่ พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวได้ เนื่องจากหิมะหนาแน่น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรน่าสนใจนะ
เพราะที่เมือง Rausu เค้ามีกิจกรรมที่น่าสนใจมากๆ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาเที่ยวที่นี่ได้
นั่นก็คือ การล่องเรือชมธรรมชาติโดยรอบทะเล Okhotsk
คอร์สก็ให้เลือกหลากหลาย ทั้งล่องเรือชมวาฬเพชฌฆาต (หรือออก้า) นกอินทรีย์ Stellar eagle แล้วแต่ว่าไปช่วงไหนของปี
ครั้งนี้ผมมาเพื่อจะถ่ายเจ้านกอินทรีย์นี่ว่านี่แหละ !
ก่อนที่จะมา ผมเคยเห็นภาพของช่างภาพชาวญี่ปุ่นและพี่ๆช่างภาพชาวไทยสุดเทพหลายท่าน เป็นภาพนกอินทรีย์ตอนช่วงแสงเช้า พระอาทิตย์ดวงกลมโต ธารน้ำแข็งและท้องฟ้าสีชมพูที่ถูกแสงอาทิตย์ฉาบเข้าใส่ในยามเช้า มันช่างสวยงามจนอยากจะได้มีไว้ในครอบครองบ้าง นั่นคือเหตุผลที่ผมและเพื่อนต้องดั้นด้นเดินทางมาที่นี่ในปี 2018
“ภาพฝันและความจริงมักสวนทาง” ดูจะใช้ได้กับทริปนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ TT
ความพังแรก คือ ทางผู้ให้บริการเรือส่งอีเมล์มาบอกว่า เรือรอบเช้าสุด (ตี 5) ต้องยกเลิกไปเพราะลมแรงและเสี่ยงกับการเจอพายุ ทำให้ต้องไปลงรอบ 9 โมงแทน อ้าวว แล้วแสงเช้าตูล่ะ…





ความพังที่สอง คือ หลังจากยอมล่องเรือรอบ 9 โมง มองไปรอบๆไม่เห็นธารน้ำแข็งใดๆ แม้สักก้อน เพราะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งมันหายไปหมด หรือเพราะตูมาเร็วเกิน น้ำแข็งมันยังไม่ไหลมาจากรัสเซีย..???? นกอินทรีย์ที่น่าสงสารแทนที่จะได้เกาะน้ำแข็งเท่ห์ๆ กลายเป็นต้องไปเกาะเสาปูนที่ไว้กันซึนามิ … เศร้าแปบ
ความพังที่สาม คือ อากาศหนาวมาก (-15 ไม่รวมลม) แล้วดันทำถุงมือหายไปข้างนึง! Nooo..
อย่าว่าแต่แพนกล้องตามอินทรีย์ที่บินโคตรไวให้ทันเลย แค่จะยกถ่ายยังแสบไปหมด
สุดท้ายหลังจากครบ Triple พัง ก็ได้ภาพมาเท่าที่เห็นนี่แหละครับ
ไว้มีโอกาสจะกลับไปแก้แค้นใหม่อย่างแน่นอน เรายังไม่ยอมแพ้!!
การเดินทาง
เมือง Rausu ไม่มีรถไฟไปถึง ทำให้การเดินทางจำกัดแค่เพียงรถบัสและรถเช่าส่วนตัวเท่านั้น
- เช่ารถจากเมือง Shari , Shibetsu หรือ Kushiro ก็ได้ ละค่อยๆขับเลียบชายฝั่งทางตะวันออกมาเรื่อยๆ
- โดยสารรถบัส สาย Kushiro – Rausu Line จากเมือง Kushiro (ต้นทาง) ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง , Nakashibetsu 1 ชั่วโมงครึ่ง และ Shibetsu 1 ชั่วโมง