วัด Ruriko-in ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโตในเขต Yase วัดแห่งนี้ในอดีคเคยเป็นสถานที่พักรักษาตัวของจักรพรรดิ Tenmu ที่บาดเจ็บจากสงคราม จนในปี ค.ศ. 1930 ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่และเปลี่ยนมาเป็นวัด โดยได้สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น Nakamura Sotoji เป็นผู้ออกแบบ
สวยมาก เดี๋ยวปีหน้ามาใหม่
สีเขียวของมอส ช่างตัดกันได้ดีมาก ๆ กับสีใบไม้
นั่งชมได้ทั้งวันไม่เบื่อ
แบ่งเลเยอร์ได้สวยมาก ๆ อยากมีบ้านที่มีสวนแบบนี้
วัด Ruriko-in ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างสองชั้นและสวนสไตล์ญี่ปุ่น โดยในแต่ละชั้นของตัววัดจะสามารถมองเห็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างสวยงาม
ไฮไลท์ที่เป็นภาพจำของวัด Ruriko-in ก็คือ ภาพสะท้อนใบไม้เปลี่ยนสีที่มองออกไปยังระเบียง งดงามราวกับภาพวาด
ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าเงาสะท้อนที่เห็นในภาพมาจากโต๊ะขัดเงาที่วางอยู่บริเวณชั้นสองของตัววัด (ช่วงหลังๆแอดเลยเรียกที่นี่ว่า “วัดโต๊ะ” อิอิ)
ภาพที่เคยเห็นของช่างภาพญี่ปุ่น ก็ยังงง ว่า สะท้อนจากอะไร
เงาวับมาก ๆ ซ้ายแดง ขวาเหลือง ไล่เลเยอร์
ที่แท้ก็คือโต๊ะขัดเงา กิ๊งงเลยยย
ถ้ามาช่วงใบไม้พีคกว่านี้คงสุดยอดมากแน่ ๆ
เห็นหัวคนแล้ว 55555
ภาพเฉลย คนรอต่อคิวถ่ายโต๊ะ อิอิ
ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่มองจากระเบียงของวัดนั้นบอกเลยว่างดงามสุด ๆ โดยที่ชั้น 1 จะเห็นภาพสวนญี่ปุ่นที่มีสีสันเหลืองส้มแดงตัดกับสีเขียวของมอส สวยงามมาก ๆ
ส่วนที่ชั้นสองจะสามารถมองเห็นเลเยอร์สีสันของใบไม้ ทางซ้ายแดงไล่ไปยังสีเหลืองทางขวา สวยงามสุด ๆ (ยิ่งถ่ายสะท้อนโต๊ะยิ่งงามยิ่งนัก )
ทางเดินไปยังวัด มีธารน้ำไหลผ่าน เดินข้ามสะพานไป
แต่ความงามก็ต้องแลกมากับหลายสิ่ง เพราะนอกจากตัววัดจะอยู่ค่อนข้างไกลจากสถานีเกียวโตแล้ว ในช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสี ยังต้องฝ่าฟันกับนักท่องเที่ยวหลายร้อยเพื่อต่อคิวเข้าวัด
แถมด้วยค่าเข้าชมวัดที่น่าจะแพงที่สุดเท่าที่แอดเคยจ่ายเข้าวัดไหนๆในญี่ปุ่น 2,000 เยน !!
วันแรกที่แอดมาประมาณเที่ยงกว่าๆ แถวยาวขนาดนี้ครับ ..... แต่ก็รอนะ .... รอแล้วได้มาใหม่ ฮ่า ๆ ๆ
ในปี 2016 แอดไปยืนต่อแถวตั้งแต่เที่ยง ๆ จนบ่าย 3 กว่าๆเกือบจะถึงคิวได้เข้าแล้ว ทางวัดมาแจ้งว่าปิดรับคิวแล้ว ให้มาใหม่พรุ่งนี้ แจกของที่ระลึกแล้วก็ให้เดินคอตกกลับไปอย่างเดียวดาย ด้วยความแค้นใจ วันต่อมาแอดก็เลยตื่นเช้ามืด นั่งรถไฟขบวนแรกมายืนรอที่หน้าวัดตั้งแต่ 8 โมง (วัดเปิด 10 โมง) ยืนรอไปสิ
หลังจากหลุดเข้าไปในวัดได้ แอดก็รีบเดินขึ้นชั้นสอง ไปต่อแถวรอถ่ายโต๊ะกับวิวใบไม้เปลี่ยนสี แม้คนจะเยอะแต่มาแล้วก็ต้องได้ภาพ !!
สวนสวยมาก ๆ
สรุป เรื่องความสวยงามนั้นบอกเลยว่า ยังไงก็พลาดไม่ได้ครับ สวยสมคำร่ำลือ แต่ถ้าจะมาจริงๆแนะนำให้เผื่อเวลาการต่อแถวและพกความอดทนในการยืนรอมาด้วยนะ ฮ่าๆ (และอย่าลืมเตรียมเงิน 2,000 เยนด้วยนะ อิอิ)
รถไฟมาถึงสถานี Yase Ekimae แล้ว
ขนาดแค่สถานียังสวยมาก ๆ วัดจะขนาดไหนน้าา
ช่วงเวลาการเดินทาง
ช่วงเวลาสำหรับใบไม้เปลี่ยนสี 🍂🍁
กลาง- ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง
การเดินทางด้วยรถไฟ
จากสถานี Kyoto โดยสารรถไฟไปลงที่สถานี Demachi-yanagi จากนั้นโดยสารรถไฟสาย Eizan ไปลงทีสถานี Yase-Hieizanguchi และเดินอีก 5 นาทีข้ามสะพานไปรอต่อคิว