SL Fuyu-no-Shitsugen Train
พูดถึงประเทศญี่ปุ่น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “รถไฟ” เป็นอะไรที่แยกออกจากชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นไม่ได้เลย เพราะการเดินทางคมนาคมหลักของประเทศเค้าใช้รถไฟซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในระยะใกล้ ไกล หรือ โคตรไกล รถไฟล้วนมีส่วนเอี่ยวด้วยทั้งนั้น
แน่นอนว่า สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องโดยสารรถไฟแทบจะทุกคน ที่นั่งกันบ่อยๆก็ไล่ตั้งแต่รถไฟ Limited Express , Local train , Metro ไปจนถึง Shinkansen


แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้ว รถไฟไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะที่ใช้ในการเดินทางเท่านั้น เค้ามีรถไฟพิเศษอีกหลายแบบ ที่รอให้พวกเรานักท่องเที่ยวได้ไปทดลองนั่งกัน เช่น
– รถไฟขบวนพิเศษที่แต่งเป็นรูปการ์ตูนเรื่องดัง เช่น Pokemon , Doraemon , Thomas Land ฯลฯ อีกเยอะมากๆ
– รถไฟตู้นอน overnight ที่ทั้งหรูและได้ชมวิวธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม เช่น CASSIOPEIA , TWILIGHT EXPRESS ฯลฯ
นอกจากนั้นยังมีรถไฟที่ให้บริการสปา ภัตตาคาร รวมไปถึงนั่งชมดาวยามค่ำคืน เยอะแยะเต็มไปหมด อยากลองนั่งสายไหน ลองเข้าไปดูได้ที่ https://www.jreast.co.jp/e/joyful/

ในวันนี้ ผมจะขอกล่าวถึง รถไฟในตำนานที่หลายๆคนน่าจะเคยได้เห็นในหนังอย่าง Harry Potter หรือในการ์ตูน Doraemon นั่นก็คือ รถไฟ SL หรือ รถไฟหัวรถจักรไอน้ำ นั่นเอง !!
พูดถึงรถไฟ SL จริงๆแล้วในญี่ปุ่นก็ยังมีวิ่งอยู่ในหลายๆจังหวัด (ช่วงเวลาก็แตกต่างกันออกไป) แต่ถ้าพูดถึง SL ที่วิ่งฝ่าหิมะสีขาว ก็คงจะไม่มีที่ไหนเด่นไปกว่า SL Fuyu-no-Shitsugen ที่เมือง Kushiro แล้วล่ะ (จริงๆ ขบวน SL Banetsu Monogatari ที่ Niigata ก็มีลุ้นหิมะ แต่ส่วนมากจะไปชนกับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่า)

หลังจากได้เห็นภาพของ รถไฟ SL ขบวนสีดำขลับ ที่วิ่งฝ่าหิมะพร้อมด้วยควันสีขาวพวยพุ่ง มันเป็นอะไรที่งดงามมีเสน่ห์แบบสุดๆ จนอดใจไม่ไหว ต้องหาโอกาสบินมาถ่ายให้จงได้

ครั้งแรกในปี 2017 ผมและเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ เดินทางมา Kushiro เพื่อตั้งใจจะมาเก็บภาพรถไฟขบวนนี้ เราเดินทางไปปักหลักที่จุดถ่ายกันอย่างพร้อมเพรียง กล้องพร้อม เลนส์เทเลพร้อม ใจพร้อม….

ใกล้ถึงเวลาที่รถไฟจะมา สิ่งที่ผิดสังเกตคือ ไม่มีลุงช่างภาพท้องถิ่นมาจับจองที่เลยสักคน ทั้งๆที่ปกติแล้วน่าจะต้องมีเยอะมากๆ แต่พวกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไรมาก
.
ผ่านไปสิบนาทีก็แล้ว ยี่สิบนาทีก็แล้ว รถไฟยังไม่ผ่านมา ทั้งๆที่จริงๆแล้วรถไฟญี่ปุ่นมักจะไม่เลทเกิน 2-3 นาที หิมะก็ไม่ได้ตกหนัก พวกเราเริ่มแปลกใจ
จู่ๆก็มีรถสีแดงขับผ่านมา คุณลุงบนรถก็หยุดจอดและเปิดกระจกพร้อมกับพูดภาษาญี่ปุ่นว่าอะไรสักอย่าง น้องที่ไปด้วยกันแปลได้ความมาว่า รถไฟ SL ได้หยุดวิ่งไปตั้งแต่เมื่อวาน เพราะหัวรถจักรไอน้ำเสีย !!!
เราจึงได้ส่งตัวแทนโทรไปหาเจ้าหน้าที่ JR ที่ kushiro Station ก็ได้ข่าวร้ายมาว่า SL จะไม่กลับมาวิ่งอีกแล้วในปีนี้ เพราะน่าจะซ่อมไม่ทัน !!!!
แต่ไม่ต้องเสียใจไปนะ เพราะเรามีหัวรถดีเซลวิ่งแทน คุณสนใจนั่งไหมล่ะ !!! เหมือนเอาหัวหมูมาตั้งแทนหูฉลามบนโต๊ะจีนยังไงยังงั้น 
W T … ฮ่วยยย พวกเราบินมาเพื่อรอถ่ายหัวรถจักรไอน้ำ ไม่ใช่หัวทู่ๆของรถดีเซล…

W T … ฮ่วยยย พวกเราบินมาเพื่อรอถ่ายหัวรถจักรไอน้ำ ไม่ใช่หัวทู่ๆของรถดีเซล…
สรุป ปี 2017 พวกเราก็เลยได้ภาพรถไฟหัวดีเซลง่อยๆ แล้วก็เบนเป้าไปถ่ายนกกระเรียนมงกุฎแดงที่ Tsurui Village แบบนกๆ เป็นของที่ระลึกแทน 555+

ปี 2018 ผมกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความมั่นใจ เช็คทุกอย่างพร้อมทั้งเวลา จุดถ่าย และคอนเฟิร์มว่าหัวรถจักรไอน้ำพร้อมวิ่งแน่นอน !!
ผมและพี่เบิร์ดจัดหนักกันสี่วันติด ขับรถหาจุดถ่ายวนไปวนมา ถ่ายหมดทั้งจุดฮิต จุดแปลก รวมไปถึงเดินขึ้นเขาหิมะเพื่อถ่ายมุมสูงด้วย เอาให้สาสมแก่ใจที่ทำให้เสียเที่ยวไป 1 ปี อิอิ
หนังจีนเค้าว่าไว้ "ตราบใดยังมีลมหายใจ เรายังสามารถแก้แค้นได้เสมอ!"
ใครอยากมาถ่ายรถไฟ SL ขบวนนี้ ก็อย่าลืมติดตามข่าวสารอัพเดทใน web ของ JR Hokkaido ด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวนกจะหาว่าไม่เตือน TT


บนเขาเราก็ถ่าย แต่อย่าถามถึงตอนเดินขึ้นเขา ทุลักทุเลมาก


Photo Tips
การจะถ่ายรถไฟ SL ขบวนนี้ ต้องถ่ายแค่ตอนขาไปเท่านั้นนะครับ เพราะขากลับเค้าจะสลับหัววิ่งกลับมา ทำให้ควันจะลอยไปอีกทาง ประหลาดมากๆ55 เพราะงั้น 1 วัน ขาไป พลาดแล้วพลาดเลย รอวันต่อไปสถานเดียวครับ !
